- *Cassis เราไม่ทราบมาก่อนว่าหมายถึงใบอะไร แต่จากที่จมูกเราได้กลิ่น ได้กลิ่นแนวพวกแบล็คเบอร์รี่มาเต็มๆ จริงลองหาข้อมูลว่าใบนี้ใน Notes หมายถึงอะไร ก็พบการอ้างอิงว่า Cassis ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึง ผลแบล็คเคอร์แรนท์ เป็นอโรม่าที่มักพบได้ในไวน์แดง อ่านเต็มๆ ได้ที่ลิ้งค์ http://wineandabout.com/th/basics/aromas/aroma-cassis/
ความทน : 6-8 สเปรย์ เกิน 8 ชั่วโมงหรืออาจมากกว่านั้น
การกระจาย : กระจายประมาณ 2 ช่วงแขนแรกๆ ก่อนลดลงตามจำนวนชั่วโมงหรือสภาพอากาศ และเป็นกลิ่น Scent Skin
เหมาะกับ : ผู้หญิงวัยทำงานขึ้นไป
สภาพอากาศ : อากาศร้อนก็พอใช้ได้ แต่อาจลดจำนวนสเปรย์เพื่อลดความแน่นของกลิ่นช่วงแรก ส่วนตัวเราชอบการใช้ในอากาศเย็นหรือห้องแอร์มากกว่า
- เป็นน้ำหอมที่เราได้มีโอกาสรับมาใช้ และได้กลิ่นค่อนข้างแตกต่างจากที่อ่านรีวิวมากเลย ทำให้เราสับสนว่าเป็นที่จมูกเรา น้ำหอมที่เรารับมา หรือเราได้กลิ่นไม่เหมือนคนอื่นเอง พอลองใช้หลายๆ ครั้งและดมน้ำหอมรุ่นนี้ของคนอื่นด้วย ก็สรุปได้ว่า 'เราได้กลิ่นรุ่นนี้ไม่เหมือนกับที่อ่านรีวิวเอง' ไม่ได้หมายความว่าไม่ดีหรือโจมตีการสื่อสารกลิ่นของใครนะคะ แต่เป็นเพราะทุกรีวิวที่เราอ่านค่อนข้างไปทางเดียวกัน และเราไม่มีน้ำหอม Giorgio Armani Si รุ่นอื่นๆ ทำให้ไม่รู้ว่า ปกติแล้วน้ำหอมไลน์ Giorgio Armani Si ค่อนข้างเป็นไปในแนวทางไหน เราเลยขอแบ่งปันการรับรู้กลิ่นรุ่นนี้ในฉบับที่ เราได้กลิ่นยังไงก็สื่อสารแบบนั้น
- สเปรย์แรกที่ลงบนผิวและดมเรานึกถึง Guerlain รุ่น la petite robe noire edp ก่อนเลย เป็นกลิ่นเด่นที่นำด้วยผลไม้แนวแบล็คเบอร์รี่ เชอร์รี่หนักๆ ซึ่งผลไม้แนวนี้ทำให้นึกถึงภาพลักษณ์ที่ดูโต สุขุม ด้วยกลิ่นหรือสีผลไม้ทำให้จินตนาการเราจะนึกถึงผู้หญิงที่ดูโตขึ้นไปมากกว่าผลไม้อื่น หรือการแต่งตัวอย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นการนึกถึงแค่แวบแรกเท่านั้น เพราะ Giorgio Armani Si edp ถึงจะได้กลิ่นแนวนั้นแต่ก็เปิดตัวเบากว่าเกอร์แลงค์ระดับหนึ่ง คือกลิ่นจะไม่เชอร์รี่หรือแบล็คเบอร์รี่หนักๆ เท่า
- พอเราลองหาโน้ตกลิ่นน้ำหอม ก็มีเรื่องทำให้ประหลาดใจอีกทีกับโน้ตน้ำหอมที่ชื่อ Cassis ว่าเจ้าโน้ตนี้มันคือกลิ่นแนวไหนกันแน่ ทำไมเราถึงได้กลิ่นที่ต่างจากโน้ตอีกแล้ว ซึ่งพอหาข้อมูลดูก็ถึงบางอ้อทันที เพราะตามความเข้าใจเราคือ Cassis ก็เป็นการกล่าวถึงผลไม้จำพวกแบล็คเคอร์แรนท์ที่มีในไวน์แหละ (ตามข้อมูลที่เราแปะในลิ้งค์ด้านบน)
- แน่นอนว่ากลิ่นความเป็นผลไม้แนวนี้หรือกลิ่นคล้ายๆ ไวน์ยังคงชูโรงให้เราได้กลิ่นนำอยู่ตลอด แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก เราก็ได้กลิ่นของดอกกุหลาบกับแพชชูลี่เข้ามาแซมด้วย เป็นการนำกุหลาบกับ Cassis เข้ามาผสมกันให้เรานึกถึงภาพลักษณ์ผู้หญิงวัยทำงานที่มีความมั่นใจ แต่มีความเป็นโมเดิร์นอยู่ เพราะตั้งแต่ช่วง Top Notes จนถึง Middle Notes น้ำหอมรุ่นนี้ผสมกันออกมาในโทนที่ มีความสดใสหรือความโปร่งของกลิ่นเล็กน้อยมาก แต่เน้นความเย้ายวนของกุหลาบและ Cassis ให้ดูน่าลุ่มหลง คล้ายเป็นของมึนเมามากกว่า
- จนมาถึงกลิ่นปิดหรือ Base Notes ที่มักจะทิ้งติดผิวไว้ ซึ่งก็ทำเราเซอร์ไพรส์อีกแล้ว เพราะกลิ่นท้ายของตัวนี้เป็นกลิ่นที่เราชอบมาก มันคือกลิ่นจางๆของ Cassis กุหลาบ ผสมกับกับวนิลาเล็กๆ และกลิ่นไม้หน่อยๆ ทำให้เรามองภาพลักษณ์ของน้ำหอมกลิ่นนี้จากช่วงแรกถึงช่วงกลางที่เป็นสาวมั่นใจทำงานเก่ง มาเป็นสาวที่ยังดูมีความมั่นใจ โมเดิร์น แต่แทรกเข้ามาด้วยความอ่อนโยนหรือความสบายๆ มากขึ้น เหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานหนักมาทั้งวันและมีโอกาสพักในมุมสบายๆ ของตัวเองอย่างนั้น
เพิ่มเติม
- สำหรับเราแล้ว น้ำหอมตัวนี้ถึงจะไม่ใช่น้ำหอมที่เรามีความชอบส่วนตัวหรือเป็นลูกรัก แต่ไม่ใช่น้ำหอมที่ไม่ดี ถือเป็นน้ำหอมที่ดีสำหรับผู้หญิงที่ไม่ชอบแนวขนมหวานๆ หรือต้องการน้ำหอมอะไรที่บอกความมั่นใจในตัวเอง แต่ยังมีความใช้ง่ายของกลิ่นผสมด้วย แต่สำหรับตัวผู้เขียนเองที่ชอบน้ำหอมสายหวานเป็นหลัก อาจยังไม่สามารถสื่อสารน้ำหอมกลิ่นออกมาให้ผู้อ่านนึกถึงได้ง่าย เพราะเป็นน้ำหอมที่โน้ตกลิ่นมีการพลิกไปพลิกมาสำหรับเราพอสมควร
- ปัจจุบันน้ำหอมกลิ่นนี้เรายังมีการหยิบมาใช้สลับกับตัวอื่นบ้าง ถึจะบอกว่าไม่ใช่แนวเท่าไหร่แต่เป็นน้ำหอมที่ใช้ในโอกาสที่เป็นทางการได้ไม่รู้สึกแก่เกินไปตัวหนึ่งเลย
หมายเหตุ :
-รีวิวนี้ผู้เขียน เขียนจากจินตนาการ ความรู้สึกส่วนตัว บางกลิ่นอาจไม่มีในโน้ตน้ำหอม แต่อาจเกิดจากการผสมกับกลิ่นเคมีในตัวเรา หรือจมูกเราที่ทำให้ได้กลิ่นอย่างนั้น เราจึงเขียนออกไปตามที่ได้กลิ่น จินตนาการถึง หรือรู้สึกถึงอย่างนั้น
-รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล โดยผู้เขียนซื้อจริง และใช้จริง เขียนเพื่อเป็นการเล่าประสบการณ์จากการใช้
เครดิตภาพ : https://www.fragrantica.com/perfume/Giorgio-Armani/Si-18453.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น